kritsada1234 http://kritsada.siam2web.com/

Intel Core i5 โพรเซสเซอร์ปฏิวัติพีซี

 

 ในทีสุด อินเทล (Intel) ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว Core i5 โพรเซสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ปฏิวัติโลกพีซีให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง โดยเฉพาะการทำงานด้วย 4 แกนหลักที่มากกว่าโพรเซสเซอร์ปัจจุบันถึง 2 เท่า ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีการผลิตโพรเซสเซอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์กับชิปตัวนี้ ยิ่งทำให้ผู้ใช้พีซีทั้งเดสก์ทอป และแลปทอปได้มีโอกาสใช้พลังประมวลผลอันทรงประสิทธิภาพ (แรง เร็ว มัลติทาสก์ ไม่ร้อน และประหยัดพลังงาน) สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ถึงเวลาแล้วที่คุณผู้อ่านควรจะได้ทำความรู้จักกับ Core i5 มากกว่าแค่ชื่อของมันเท่านั้น

 

ไม่น่าเชื่อว่า เมื่อ 40 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีในสมัยนั้นจะสามารถบีบอัดทรานซิสเตอร์กว่า 3 ล้านตัวให้เข้าไปอยู่ในชิปขนาดเล็ก เพื่อให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทำงานได้อย่างน่าอัศจรรย์ (จากตู้เมนเฟรมขึ้นมาอยู่บนโต๊ะทำงาน) โดย "ทรานซิสเตอร์" ที่อยู่ภายในจะทำหน้าที่เหมือนสวิทช์ขนาดจิ๋วสามารถเปิดปิด เพื่อสร้างสัญญาณไฟฟ้า 1 และ 0 แทนข้อมูลที่ใช้ในการประมวลผล และยิ่งนานวันพวกมันจะถูกบีบอัดให้มีขนาดเล็กลงไปเรื่อยๆ เพราะยิ่งเล็กลงได้มากเท่าไร นั่นหมายถึง ชิปประมวลผลก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพในการประมวลผลมากขึ้นเท่านั้น และนั่นคือ ก้าวแรกของโพรเซสเซอร์ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหลายล้านเครื่องทั่วโลก

แต่สำหรับ Core i5 โพรเซสเซอร์รุ่นล่าสุดที่อินเทลได้เปิดตัววันนี้ ภายในของมันมีทรานซิสเตอร์อยู่มากถึง 731 ล้านตัว (ประมาณ 244 เท่า เทียบกับสี่สิบปีที่แล้ว) ที่วางเรียงชิดติดกันอยู่ภายในชิปที่มีขนาดแค่ครึ่งหนึ่งของสแตมป์ และด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ในการออกแบบและพัฒนาชิปตัวนี้ อาจถือได้ว่า Core i5 เป็นตัวแทนของเดส์กทอปพีซียุคใหม่ก็ว่าได้ แม้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อินเทลได้พัฒนาโพรเซสเซอร์ให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้น แต่ Core i5 จะมีพัฒนาการที่ถือว่า เป็นการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีการออกแบบโพรเซสเซอร์ เนื่องจากมันมีการเปลี่ยนแปลงในการออกแบบถึง 9 ส่วนสำคัญๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ใช้ใน Core i5 ซึ่งปกติจะพบได้ในเซิร์ฟเว่อร์ระดับไฮเอ็นด์เท่านั้น แต่วันนี้มันได้มาอยู่บนโต๊ะ (desktop) หรือบนตัก (laptop) ของผู้ใช้แล้ว

ในส่วนของสถาปัตยกรรมทีใช้ในการพัฒนาโพรเซสเซอร์รุ่นใหม่นี้ วิศวกรของอินเทลใช้โค้ดเนมว่า "Lynnfield" (อยู่ในตระกูลเดียวกันกับ Nehalem) ซึ่งได้รับการพัฒนาครั้งแรกเพื่อใช้กับโพรเซสเซอร์ Core i7 โพรเซสเซอร์รุ่นพี่ที่มีพลังประมวลผลระดับไฮเอ็นด์ (พอๆ กับราคา) สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และเดสก์ทอปเวิร์กสเตชั่นอันทรงพลัง โดย Core i5 ได้ใช้โครงสร้างของสถาปัตยกรรมภายในที่สำคัญๆ จากโพรเซสเซอร์ Core i7 การใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ 45nm (จากเดิม 65nm) ทำให้สามารถเพิ่มทรานซิสเตอร์เข้าไปในชิปได้อย่างมหาศาล และผลจากการลดขนาดของทรานซิสเตอร์ลงได้อีก ทำให้การเชื่อมต่อการทำงานระหว่างทรานซิสเตอร์สั้นลง และเร็วขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้สามารถประมวลผลข้อมูลต่อวินาทีได้มากขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมต่อที่สั้นลง เร็วขึ้น ของการทำงานระหว่างทรานซิสเตอร์ ยังช่วยประหยัดพลังงานลงได้มากอีกด้วย

สำหรับระบบการทำงานของ Core i5 จะมาพร้อมกับโพรเซสเซอร์ 4 แกน (เปรียบเทียบกับรถยนต์ทีมี 4 เครื่องยนต์ก็ได้) ต่อชิป ซึ่งมากกว่าถึงสองเท่าของชิปเดสก์ทอปในปัจจุบัน (dual-core) อย่างไรก็ตาม Core i5 จะไม่มีไฮเปอร์เธรดดิ้งแบบ Core i7 โดยโครงสร้างของ Core i5 จะเป็น Quad-Core 4-thread  

คอมพิวเตอร์ที่ใช้โพรเซสเซอร์ Core i5 จะสามารถทำงานอย่างเช่น การแก้ไขวิดีโอไฮเดฟฯ บริการวิดีโอแชตผ่านสไกป์ที่สามารถเห็นภาพเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล (ไม่กระตุก) แม้ว่ากำลังเพิ่มเพลงเข้าไปในไลบรารี่ของไอจูนส์อยู่ในขณะนั้นก็ตาม นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ และระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ๆ ก็ยังได้รับการปรับแต่งการทำงานให้ใช้ข้อได้เปรียบของความสามารถของมัลติคอร์ และมัลติเธรดดิ้งอีกด้วย แอ๊ปเปิ้ลเพิ่งออก Snow Leopard Mac OS X 10.6 ส่วนไมโครซอฟท์ก็เตรียมเข็น Windows 7 ออกมา ซึ่งทั่งคู่สามารถทำงานร่วมกับ Core i5 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ภายใน Core i5 ยังมีโหมดเทอร์โบที่สามารถเร่งการทำงานได้เร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย โดยสามารถเรียกใช้กับการประมวลผลงานหนักๆ ได้ แถมยังสามารถตัดสินใจเลือกใช้จำนวนคอร์ทีเหมาะสมกับงานได้อีกต่างหาก ซึ่งทำให้มันไม่ต้องใช้เอ็นจิ้นทั้งสี่แกนตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อใช้งานทั่วไปอาจจะเหลือแค่ Core เดียวก็ได้ (นับเป็นโพรเซสเซอร์ที่สามารถบริหาร Core ได้ราวกับเปลี่ยนเกียร์คันเร่งของรถยนต์) ผลจากความฉลาดในการประมวลผลดังกล่าว ทำให้มันสามารถเร่งเครื่องจากความถี่ในการทำงานที่ 2.8GHz เป็น 3.2GHz ได้ เมื่อระบบต้องการในขณะที่ระบบยังคงทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ

จากพี่ใหญ่ Core i7 มาสู่น้องคนรองอย่าง Core i5 ในต้นปีหน้า ผู้ใช้ยังจะได้พบกับน้องคนเล็กอย่าง Core i3 ที่จะตามออกมา ซึ่งผู้บริหารอินเทลกล่าวว่า มันเหมาะกับผู้ใช้ในกลุ่ม entry level แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังทรงพลังด้วยสถาปัตยกรรมใหม่นั่นเอง การใช้ชื่อเรียกโพรเซอร์ด้วย Core ในลักษณะนี้ (ทั้ง Core i7, Core i5 และ Core i3) ก็เพื่อแก้ปัญหาความสับสนในโลโก และผลิตภัณฑ์ Core 2 ที่ออกมามากมายก่อนหน้านี้ สำหรับโพรเซสเซอร์ Atom ที่ใช้กับเน็ตบุ๊กก็จะยังคงได้รับการพัฒนาต่อไป ตามด้วย Celeron และ Pentium ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่รองรับตลาดผู้ใช้ในวงกว้าง


Intel เปิดตัว Intel Core i7 ที่สุดแห่งสุดยอดโปรเซสเซอร์

อินเทลเปิดตัวโปรเซสเซอร์ที่ประมวลผลเร็วทำสถิติเร็วที่สุดในโลกทุกรายการ มาพร้อม 2 เทคโนโลยีล้ำยุค

เมื่อวันที่ 18 พย. 2008 เวลา 14.00น. ทาง อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย)  ได้เปิดตัว โปรเซสเซอร์สำหรับคอมพิวเตอร์ Desktop ทีก้าวล้ำที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวงการไอทีโลก ในชื่อ “Intel Core i7 Processor” ณ บริเวณ  Forum Zone (แถว B2S) ห้างสรรพสินค้า Centralworld  ซึ่งนับเป็นตัว Processor รุ่นแรกในตระกูลเนฮาเลม (Nehalem) และมีความซับซ้อนทัันสมัยที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการตอบสนองได้ตามความต้องการ และสามารถดึงความสามารถของข้อมูลมาใช้อย่างเต็มที่ ช่วยทำให้กิจกรรมในการประมวลผลสูงๆ อย่างการตัดต่อภาพยนตร์  หรือเล่นเกมระดับไฮเอนด์ และอื่นๆ สามารถทำได้อย่างรวดเร็๋วยิ่งกว่าเดิมถึงร้อยละ40 โดยไม่กินไฟเพิ่มไปจากเดิม
 

ประสิทธิภาพของ  “Intel Core i7 Processor” ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจาก อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ว่าเป็นความพิศวงแห่งเทคโนโลยี สามารถทำลายสถิติผลการทดสอบประสิทธิภาพโปรเซสเซอร์ ด้วยคะแนนสูงถึง 117 คะแนน จากการทดสอบด้วยเบนช์มาร์ก SPECint_base_rate2006* นับเป็นครั้งแรกที่มีโปรเซสเซอร์สามารถทำคะแนนได้เกิน 100 คะแนน

นายเอกรัศมี อวยสินประเสริญ กรรมการผู้จัดการ Intel ประเทศไทย กล่าวว่า “การเปิดตัวครั้งนี้ Intel ได้นำเสนอ Desktop Processor ที่สามารถประมวลผลได้เร็วที่สุดในโลก สำหรับผู้ต้องการใช้คอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงๆ สำหรับใช้ในด้านวีดีโอ เล่นเกม และเพลง เมื่อ Intel ได้นำเทคโนโลยีล่าสุดในการดีไซน์ชิป มาผนวกเข้ากับสุดยอดนวัตกรรม  อย่างเช่น อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล Solid State Drive ของ Intel จึงทำให้่  “Intel Core i7 Processor” กลายเป็นตัวกำหนดนิยามใหม่สำหรับคอมพิวเตอร์แห่งอนาคต”


เทคโนโลยี “Turbo Boost” ที่โดดเด่นของ Intel จะช่วยเร่งประสิทธิภาพในการทำงานของ Processor ซึ่งเป็นผลมาจากตัวควบคุมการใช้พลังงานที่ซับซ้อนบนตัวชิป (on-die ) และทรานซิสเตอร์รุ่นใหม่ที่มี (power-gate) ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิต Hi-k Metal Gate ในระดับ 45 Nm เทคโนโลยี “Turbo Boost” สามารถปรับความเร็วรอบสัญญาณนาฬิกาของคอร์ประมวลผลได้โดยอัตโนมัติ สามารถปรับได้ทั้ง Core เดียว หรือ หลายCore พร้อมกันจากทั้งหมด 4 Core ก็ได้ เพื่อเสริมในการรองรับ application แบบ single trade หรือแบบ multi-Trade โดยไม่ใช้พลังงานเพิ่ม นอกจากนี้  “Intel Core i7 ” ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีประหยัดพลังงานรุ่นล่าสุดของ Intel ที่สามารถ PC Desktop เข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งก่อนหน้านี้มีเฉพาะ Notebook ที่ใช้ Processor ของ Intel เท่านั้น

ด้วยเทคโนโลยี Intel Quickpath Technology ทำให้ “Intel Core i7 Processor” สามารถเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลได้มากกว่าเดิม ถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์ม Extreme รุ่นก่อนหน้านี่ นอกจากนี้ Intel ได้ ออกแบบ Processor ให้มี เทคโนโลยี Hyper Trading เพื่อทำงานแบบ Multi-Trade ได้ในเวลาเดียวกัน จึงทำให้ Processor ทำงานสองอย่างได้พร้อมๆกัน ดังนั้น  “Intel Core i7 Processor รุ่น Quad Core” สามารถรองรับการทำงานของ software ได้ถึง 8 เธรด

นอกจากนั้น “Intel Core i7 Processor” ยังมีประสิทธิภาพที่เหนือชั้นสำหรับการเล่นเกมสามมิติที่ต้องการพลังการประมวลผลสูงๆ ด้วยประสิทธิภาพที่เร็วกว่า Process สมรรถนะสูงรุ่นก่อนหน้าของ Intel ถึงร้อยละ 40 จากการทดสอบ โดยใช้เบนช์มาร์ก 3DMark Vantage CPU” Physic และ AI ซึ่งเป็นมาตรฐานการทดสอบประสิทธิภาพในการเล่นเกม ซึ่ง  “Intel Core i7 Processor Extreme Edition” ใช้ 8 เธรด ในการเล่นเกม โดยอาศัย artificial intelligence (AI) ที่ล้ำหน้า และหลักฟิสิกสฺ์ เข้ามาทำให้การเล่นเกมสมจริงยิ่งขึ้น

“Intel Core i7 Processor” และชิพเซ็ต Intel X58 Express Chipset พร้อมทั้งบอร์ด Intel Desktop Board DX58SO Extreme Series มีจำหน่ายตามร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของ Intel ได้แล้ววันนี้

นอกจากการนำมาเล่าคุณสมบัติใหม่ของ Intel รุ่นล่าสุดอย่าง “Intel Core i7 Processor” แล้ว ยังได้สัมภาษณ์กับผู้ทดสอบในกลุ่มแรก โดยมีแขกรับเชิญ  มาเล่าประสบการณ์ในเรื่องการใช้คอมที่มี core i7
คุณสุเทพ ตันนิรัตน์  จาก  Anya Animation ผู้สร้างสรรค์ภาพยนต์แอนิเมชั่นเรื่องดังฝีมือคนไทย
และ ท่าน ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล จาก Fukduk.tv กับการดำเนินรายการ Internet TV  28 ช่องคุณภาพ

รวมไปถึงการเปิดตัวเวบไซต์ intel.com ภาคภาษาไทย ที่สามารถเข้าชมเทคโนโลยีอันล้ำยุคทาง http://www.intel.com/th ซึ่งการออกแบบเวบไซต์นั้นทันสมัยด้วยวีดีโอที่จะนำพาท่านไปสู่โลกเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมข้อมูลอันล้ำสมัยที่เข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งงานแถลงข่าวการเปิดตัว ทั้ง  “Intel Core i7 Processor” และการเปิดตัว intel.com ภาคภาษาไทย มีบรรดาสื่อมวลชนทั้งโทรทัศน์และค่ายสำนักพิมพ์จากนิตยสารไอทีชื่อดังมาร่วมงาน และเหล่า Blogger  GEEK ชาวไอที  ได้รับความสนใจมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก  นับว่า Intel ได้เปิดกว้างให้ชาวไอทีได้รับรู้กับความก้่าวล้ำทันสมัยในการพัฒนา Processor ที่ก้าวล้ำโลกอีกขั้น ที่ต้องจับตาครับ

ปล.ใครที่ถอย PC เครื่องในงาน Commart Comtech 2008 ที่ไม่ได้มี Core i7 คงเจ็บปวดใจไม่น้อย เพราะสมรรถภาพทางด้านการประมวลผล ของ Core i7 ใหม่นี่ แรงสมชื่อจริงๆ ทิ้ง AMD แบบห่างหลายเท่าตัว


Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 6,985 Today: 3 PageView/Month: 6

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...